Category ข่าวบันเทิง

ต่อ ธนภพ บาลานซ์ชีวิต

“ต่อ” บาลานซ์ชีวิตลดความเป็น มนุษย์ถ้ำ ออกไปข้างนอกเยอะขึ้น ไม่หยุดท้าทายตัวเอง

ลุยงานต่อรับปีใหม่ พระเอกฮอต “ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร” ท้าทายตนเองอีกรอบ กับบทที่ไม่เคยเล่นมาก่อน ในซีรีส์ฟอร์มยักษ์แนวแฟนตาซี “Midnight Museum พิพิธภัณฑ์รัตติกาล” โดย GMMTV เรื่องราวสุดพิศวง ที่เกิดขึ้นในพิพิธภัณฑ์สุดลึกลับ นำแสดงกับหนุ่ม กัน-อรรถพันธ์ รวมทั้งนักแสดงคับคั่ง ผลงานของผู้กำกับ หนุ่ม-อรรถพร

ต่อเล่าการทำงานในปี 66 นี้ว่า “ตอนนี้มีงานถ่ายทำซีรีส์ Midnight Museum นี้ หลัก ๆ ก็จะโฟกัสงานนี้ก่อน ด้วยเหตุว่าทุกคน จะทราบว่าผมจะทำที ละโปรเจกต์ ถือเป็นอีกก้าว การแสดงที่ผมว่ามันมิได้ใหม่เพียงแค่ผม กับทีมก็ใหม่หมด มันเป็นบทที่ผมไม่คิดว่า จะได้โอกาสมารับแนวนี้ เป็นเรื่องราวแนวที่ผมไม่เคยเล่นเลย เนื่องจากว่าเป็นแนว Horror Fantasy จะมีหลาย ๆ แนวปนอยู่ในเรื่องเดียว เป็นอีกโปรเจกต์ ที่พยายาม ทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง”

ต่อ ธนภพ ลดความ

ความสนุกสนานสำหรับการท้าทายกับงานใหม่ ๆ ไปเรื่อย ๆ ของต่อคืออะไร?

“ผมว่ามันก็เป็นทางของมนุษย์เรา มันบางทีอาจไม่ใช่แค่คำว่า อาชีพนักแสดง ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือไม่ว่าจะเป็นอาชีพไหน หากเราได้ชาเลนจ์มันดีเสมอ เพราะเหตุว่าในที่สุด ถ้าเราหยุดท้าทายเมื่อไร มันอาจจะน่าเบื่อ และก็เราอาจจะหลงเข้าไปอยู่ ในคอมฟอร์ตโซนโดยไม่ทันรู้ตัว

ผมเชื่อในคำว่าคนเรา จะประสบความสำเร็จนอกคอมฟอร์ตโซน เลยคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่ปัจจุบันนี้ ผมดีใจเสมอ เวลามีคนพูดว่า การที่เค้าเห็นความเต็มที่ของเรา เค้าเอาไปปรับใช้ ในสิ่งที่เค้าเป็นอยู่ ผมไม่เคยกล่าวว่ามาเป็นนักแสดง แบบผมสิ มันดีมากเลย เพราะคนเราชอบอะไรแตกต่างกัน แต่ว่าแค่เค้าได้เห็นอะไรอย่างงี้ ผมก็ดีใจแล้ว”

เรื่องนี้ต้องเปลี่ยนตัวเองอย่างไรบ้าง?

“จริง ๆ ลดหุ่นมา 10 กก. ครั้งที่แล้วแรงกว่าตอน One For The Road เพิ่มน้ำหนักมา 15 กก. ก็ทำการบ้านหนักครับผม จากที่ได้เห็นเทรเลอร์ไป คาดว่าจะได้เจอซีจีกัน แบบมหากาพย์ ก็จะต้องขอบคุณพี่หนุ่ม-อรรถพร”

รีวิวการทำงานในปี 2565 ที่ผ่านมาหน่อย เพราะว่าต่อเคยกล่าวว่าเป็นปีที่โชคดี?

“เสมือนการได้ออกมาดูแลตัวเองจริง ๆ มันคือการบอกเรา ว่าโตได้แล้ว ผมว่าหลาย ๆ อย่างมันเริ่มจาก คำว่าเอาตัวรอด เราก็ต้องการไปต่อ กระทั่งประสบการณ์ที่สั่งสม ถูกเลี้ยงดูมาจากนาดาว มันก็ได้ใช้ และก็คือเรื่องมุมมองชีวิตด้วยมั้ง ด้วยเหตุว่าผมมีความคิดว่าอยากลดความเป็นมนุษย์ถ้ำของตน ที่ไม่ค่อยออกไปไหน ต้องการออกไปพบพี่ ๆ เพื่อน ๆ ที่เราสนิท ที่เรารักเพิ่มมากขึ้น ต้องการไปงานต่าง ๆ ไปแสดงความยินดีกับพวกเค้าจริง ๆ มากขึ้น

แต่ก่อน ผมจะลำดับความสำคัญ แบบคลั่งนิดหน่อยให้งาน ๆๆ ในตอนนี้ก็จะพยายามซอฟต์ลง ให้เวลากับครอบครัวมากขึ้น แบ่งชีวิตส่วนตัวของตัวเอง ออกมาให้ดียิ่งขึ้น ท้ายที่สุดแล้วมันเป็นชีวิตเรา ผมอยากมีชีวิตที่ผมแฮปปี้ ไม่ว่าจะกับแฟนคลับ หรือไม่ว่าใครก็ตามก็บาลานซ์ ให้มันอยู่ในจุด ที่มีความสุข พยายามหาคนที่เค้ารักเรา ที่เป็นเราจริง ๆ”

ทำให้เราแฮปปี้ขึ้นด้วยมั้ย?

“ผมว่ามันรีแลกซ์ขึ้น จริง ๆ ความสุขผมมีนะ ด้วยเหตุว่าการทำงานผมไม่เคยทุกข์”

ถามที่อัปรูปไปเที่ยวทะเลมาไม่นานนี้?

“อ๋อ รูปเก่าครับ (ยิ้ม) จะบอกว่าทุกครั้งที่เราลงรูปทะเล ขอให้แฟนคลับ รู้ไว้ว่านั่นเป็นช่วงที่ธนภพอยากไป แต่ไม่ได้ไป (ยิ้ม) เลยขอลงรูปหน่อยก็ยังดี”

ไม่หาเวลาปลดปล่อยพักผ่อน?

“ไม่ต้องการให้มองว่าปลดปล่อย เนื่องจากว่าผมเป็นคนแฮปปี้ กับการทำงาน แต่ถามวันที่เราทำมาเรื่อย ๆ ไม่ต้องการโกหกว่าเราไม่มีความรู้สึกอยากพัก จริง ๆ ระหว่างทางเรา อยากพักตลอด แต่ทุกครั้งที่เรา เห็นการซัพพอร์ตอะไรดี ๆ เราก็จะมีความรู้สึกว่าไปอีกหน่อย มันก็จะอีกหน่อยไปเรื่อย ๆ”

แปลว่าเวลาลงรูปทะเลก็ช่วยได้?

“ช่วยได้ในแง่แบบความรู้สึกลึก ๆ”

ต่อ ธนภพ ในงาน

ต่อ ธนภพ ร่วมงาน

เปิดภาพ พระเอกดังเพียงคนเดียว ต่อ ธนภพ ที่ได้ร่วมงานปาร์ตี้ กับนางเอกตัวแม่ของวงการ

รวมตัวกันแล้ว สำหรับแก๊งซุป’ตาร์เมืองไทย ที่จัดไพรเวตปาร์ตี้ ส่งท้ายปีที่บ้านของ คุณแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ หรือ มาดามแป้ง บอกเลยว่าแต่ ละคนเป็นนางเอกระดับต้น ๆ ของประเทศไทยทั้งนั้น รวมทั้งในคืนนั้น มีกิจกรรมจับฉลาก ของขวัญสุดปังจากมาดามแป้ง บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข ความสนุกตลอดงาน

เราจะเห็นภาพถ่าย แก๊งนางฟ้า แต่ละคนสวยปังทั้งนั้นเลย บอกเลยค่ะว่า สวยปังกันทุกคน ไม่ว่าจะเป็น ริต้า ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช, แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ, อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ, เชอรี่ เข็มอัปสร, แอน ทองประสม, นัท มีเรีย

และมีพระเอกหนุ่มสุดฮอต ที่ได้ไปร่วมสนุกในคืนนั้น นั่นคือ ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร ซึ่งเจ้าตัวได้โพสต์ภาพ พร้อมเขียนแคปชั่น ด้วยความตรึงใจลงบนอินสตาแกรมส่วนตัว

โดยเนื้อความดังกล่าว ระบุว่า “Lots of love here Thank you P’@panglamsam for hosting a lovely party last night.⁣ Thank you and very happy to see everyone kub”

ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยว่า “รักทุกคนมาก ๆ ที่อยู่ตรงนี้ ขอบคุณพี่แป้งที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ปาร์ตี้เมื่อคืนนี้สนุกมาก ขอบคุณ แล้วก็มีความสุขมาก ที่ได้มาเจอกันครับ”

เวียร์ ศุกลวัฒน์ ปลื้มลูกคนแรก

เปิดใจ "เวียร์ ศุกลวัฒน์" ปลื้มน้ำตาไหล อุ้ม น้องวีลิน ครั้งแรก

เปิดใจครั้งแรก คุณพ่อป้ายแดง เวียร์ ศุกลวัฒน์ ผ่านรายการ เที่ยงบันเทิงสด เปิดเผยดีใจร้องไห้ ได้อุ้ม น้องวีลิน บุตรสาว ครั้งแรก ช่วยเติมเต็มให้ชีวิต ครอบครัวสมบูรณ์มากขึ้น สารภาพสุดเห่อ ตั้งเป้ามีลูก 2 คน

กลายเป็นคุณพ่อป้ายแดงหมาด ๆ สำหรับพระเอกช่อง 7HD เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ หลัง วิกกี้ พีมนต์ญา ภรรยาสาวสวย ได้ให้กำเนิดลูกสาวคนแรก น้องวีลิน ท่ามกลางความดีใจจากเพื่อน พี่น้อง ทั้งในรวมทั้งนอกแวดวงบันเทิง จำนวนมาก

เวียร์ ศุกลวัฒน์ ลูกวิกกี้

ล่าสุด หนุ่ม เวียร์ ศุกลวัฒน์ ได้ให้สัมภาษณ์

ทางโทรศัพท์กับทางรายการ เที่ยงบันเทิงสด ทางช่อง 7HD โดยมี แอมป์-พีรวัศ กุลนันทวัฒน์ รวมทั้ง นิวหนวด-ธนิศ แก้วนาค รับหน้าที่เป็นพิธีกร ซึ่งได้ให้คำตอบ ด้วยน้ำเสียงสดใส ภายหลังถูกถามด้วยคำถามแรก ว่าได้นอนบ้างหรือยัง

“ยังมิได้นอนเลยครับผม คือมิได้เลี้ยงลูกตลอด แต่ว่าคือทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง จะต้องให้นมแม่ครับ ตัวผมก็จะต้องตื่นมา หยิบจับโน่นนี่นั่น ช่วยเหลือกันครับ ส่วนน้องวีลิน หน้าเหมือนใครนั้น ยังดูไม่ออกครับผม คงจะผสม ๆ กันนะครับ แต่ขาวได้แม่ครับ”

วินาทีแรกที่ได้รับน้องวีลินมาอุ้ม รู้สึกเป็นยังไงบ้าง ?

“ในขณะนั้น น้ำตาไหลเลย คือเราเฝ้ารอ เป็นสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้น ในชีวิตเรา แล้วก็เรารู้สึกว่า นี่แหละมั้งเป็นสิ่งที่เรารอคอย มันก็เติมเต็ม ให้ชีวิตครอบครัวสมบูรณ์ขึ้น อีกสเต็ปหนึ่ง เรื่องเห่อลูกไหม จริง ๆ เห่อกันทุกคนเลยครับ ผมก็ขออุ้มทั้งวันเลยครับ ทางฝั่งคุณย่า คุณยาย จัดมาเต็มที่แล้วครับ รับขวัญเรียบร้อย ทางวิกกี้ดีขึ้นแล้วครับผม เริ่มกินอาหารอ่อน ๆ ได้”

ลูกคนแรกมาแล้ว คนที่ 2-3-4 จะตามมาเลยไหม ?

“จริง ๆ คิดไว้ว่าอยากมีอีก แต่ทั้งนี้ ต้องรอดูลูกคนแรกก่อนว่า จะเลี้ยงดู แล้วเป็นอย่างไร ซึ่งจริง ๆ ก็จะต้องมองหลาย ๆ อย่าง ทั้งในเรื่องของอายุ และก็กิจกรรมต่าง ๆ ที่ผมคิดไว้ ก็จะต้องมี 2 คนครับ ผมได้คุยกับวิกกี้ไว้ ว่าน่าจะเลี้ยงเองนะครับ ในอนาคตอาจมีแม่บ้าน มาช่วยดูแลเรื่องทำความสะอาดเพิ่มขึ้น คือคงจะเพิ่มในเรื่องของแม่บ้าน แต่หากเลี้ยงและดูการเจริญเติบโต พัฒนาการของเขา ผมก็น่าจะช่วยกันดูกับวิกกี้ครับ”

“ผมขอฝากไปถึงทุกคนนะครับ แฟนคลับ เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ในวงการ และก็เพื่อน ๆ ที่อยู่นอกวงการ แฟน ๆ ช่อง 7HD ทุกคนเลยนะครับ ที่ส่งกำลังใจให้ กำลังคอยสนับสนุนทั้งผม วิกกี้ ในขณะนี้เรามีสมาชิกใหม่ ขอบคุณครับทุกคน ที่ทำให้เรารู้สึก ว่าเรามีคนน่ารัก ที่อยู่รอบ ๆ ตัวเรา มีกัลยาณมิตรที่ดีคอยช่วยเหลือกัน ทุกวันนี้จะมีพี่ ๆ มาถาม มีอะไรปรึกษาได้ อยากได้อะไรเพิ่มเติมบอกได้นะ ส่งกำลังใจมาให้ผม ส่งทั้งของลูก ของแม่มาให้ ต้องพูดว่าขอบคุณทุกคน ที่น่ารักกับเราแบบนี้ครับผม อย่างไรก็รอติดตาม พัฒนาการของน้อง ของครอบครัวเรา ได้เรื่อย ๆ ครับ”

เวียร์ ศุกลวัฒน์ ชวนถ่ายภาพ

“เวียร์” เห่อลูกสาวมาก คุณพ่ออวดมุมถ่ายรูปกับ “น้องวีลิน”

พึ่งมีสมาชิกตัวน้อย มาเพิ่มสำหรับครอบครัวคณารศ และก็คุณพ่อป้ายแดง อย่างพระเอกหนุ่ม เวียร์ ศุกลวัฒน์นั้นไม่ต้องบอกว่า จะเห่อลูกสาวแค่ไหน หลังจากภรรยาสาว วิกกี้ พีมนต์ญา พึ่งจะคลอด น้องวีลิน ลูกสาวคนแรก

ซึ่งมีภาพของ คุณย่าแหม่ม คุณแม่ของเวียร์ ที่มารับขวัญหลานสาวตัวน้อย และ เวียร์ ที่ทำหน้าที่พ่อ สุดละมุนอุ้มลูกสาว แล้วก็ล่าสุด ในอินสตาแกรมของคุณพ่อป้ายแดง ที่เพิ่งโพสต์รูป กับมุมถ่ายรูปที่จัดไว้ให้ เตรียมต้อนรับญาติ ๆ รวมทั้งคุณพ่อขอถ่ายรูปมุมนี้ กับลูกสาวก่อน เพราะว่ายอมรับเลยว่า เห่อลูกสาวมาก เวียร์ ทำปากจู๋ถ่ายภาพกับแคปชั่นว่า

“มุมถ่ายรูปพร้อมครับ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย ลุง ป้า น้า อา ป๊าขอถ่ายก่อนนะครับ อิอิ …บอกเลย เห่อลูกสาวมาก @vikkiiexplorer @weircationofficial”

เวียร์ ศุกลวัฒน์ คุณแม่
แม่เวียร์ ศุกลวัฒน์ ดอดอุ้ม วิลิน แล้วหลัง วิกกี้เพิ่งจะคลอดลูก

“แม่เวียร์ ศุกลวัฒน์” พระเอกดัง ดอดอุ้ม “วิลิน” หลานรักแล้ว หลัง “วิกกี้” ลูกสะใภ้พึ่งจะคลอดไม่นาน ด้านชาวเน็ตแห่ไลค์ และก็ดูความน่ารัก พึ่งออกมาประกาศข่าวดี ผ่านอินสตาแกรมไปหมาด ๆ สำหรับดาราดัง เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ ที่ล่าสุดภรรยาสาว วิกกี้ พีมนต์ญา ได้ให้กำเนิดลูกสาว คนแรกของครอบครัว น้องวิลิน ไปหมาด ๆ เมื่อวานนี้ 19 ธ.ค. ท่ามกลางความดีใจและแฮปปี้ ของแฟน ๆ ทุกคนรวมทั้งครอบครัว

ล่าสุด คุณแม่พลอยไพลิน แม่ของหนุ่มเวียร์ ได้เดินทางไปเยี่ยมรวมทั้งอุ้มน้องวิลินแล้ว โดยมีการอัพเดทรูปของตนอุ้มน้องวิลิน แล้วก็ตอนหนุ่มเวียร์ ดูแลลูกให้ได้เห็น โหมดคุณพ่อมือใหม่ชัด ๆ โดยหลาย ๆ คนบอกน้องน่ารักมาก บ้างก็พูดว่าคุณย่า แล้วก็พ่อเวียร์สุดยอดอ่ะ ดูแลเก่งและน่ารักมาก บ้างก็พูดว่าหลงรักครอบครัวคณารศอีกด้วย

ซึ่ง ข้อความที่คุณแม่เขียนคือ “My little princess we love you so so much @weir19 @vikkiiexplorer” ซึ่งก็มีแฟน ๆ มาไลค์ และก็แซวความน่ารักแบบรัว ๆ ในทันที

Titanic แจ็กโรส

เจมส์ คาเมรอน ทำการวิจัยหักล้างทฤษฏีที่ แจ็ค ดอว์สัน รอด เพราะสุดท้ายก็ตายอยู่ดี

วันที่ 19 ธันวาคม 2022 ถือเป็นฤกษ์งามยามดี ด้วยเหตุว่าตรงกับวัน ที่ภาพยนตร์ Titanic (1997) ฟอร์มยักษ์ สุดยิ่งใหญ่ เข้าฉายในสหรัฐอเมริกา เป็นครั้งแรกเมื่อ 25 ปีที่แล้ว

ซึ่งเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก เคยเป็นหนังที่ครองอันดับ 1 ของหนังทำเงิน สูงสุดทั้งโลก รวมทั้งปัจจุบันก็ยังอยู่ที่อันดับ 3 แล้วก็ยังเป็นเจ้าของ รางวัลออสการ์ 11 สาขา และรางวัลลูกโลกทองคำ

Titanic เจมส์ คาเมรอน

Titanic นอกจากวิสัยทัศน์ แล้วก็การทำงานหนัก

ของผู้กำกับ เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) แล้ว เรื่องราวเนื้อหาโศกนาฏกรรม แล้วก็พล็อตรัก โรแมนติกดราม่า ที่ผูกเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ก็ส่งให้ คู่ขวัญ แจ็ก-โรส กลายเป็นคู่พระนาง ที่คนทั่วโลกต่างหลงรัก จนขนาดฉากสุดท้าย ที่ตัวละคร แจ็ก ดอว์สัน (Jack Dawson) หนาวตายอยู่กลางทะเล ก็ยิ่งทำให้หลายท่านที่อินจัด มีความคิดว่าการตายของแจ็ก ดูจะโหดร้ายและไม่สมเหตุสมผล ไปหน่อยหรือเปล่า

ถ้าหากยังจำกันได้ ฉากนี้คือฉากหลังจากที่เรือล่ม แจ็กและก็โรสลอยคอจนกระทั่ง มาพบกับแผ่นไม้แผ่นหนึ่ง (ที่เป็นเศษชิ้นส่วนจากผนัง ไม่ใช่ประตู) ตอนแรกทั้งสองจะไต่ขึ้นไปบนแผ่นไม้ ด้วยการให้โรสปีนขึ้นไปก่อน กระทั่งเมื่อแจ็กจะปืนขึ้นตาม ด้วยความที่ไม้รับน้ำหนักมิได้ ไม้ก็เลยคว่ำ ส่งผลให้แจ็กต้องยอมเสียสละ ลงมาลอยคอ ในน้ำและก็เกาะไม้กระดานแทน จนกระทั่งเมื่อโรสผล็อยหลับไป แล้วก็ตื่นขึ้นมา เธอก็พบว่า แจ็กทนความหนาวเย็น ของน้ำทะเลไม่ไหว รวมทั้งเสียชีวิตลงในที่สุด

อาจจะด้วยความขัดใจ ในตอนสุดท้ายหรืออะไรก็แล้วแต่ ก็เลยเกิดคำถามขึ้น ในหมู่แฟนหนังว่า แล้วเพราะอะไรโรสจึงไม่ช่วย (ทำอะไรก็ตาม) ที่จะทำให้แจ็กขึ้นไป อยู่บนกระดานไม้ได้ เลยไปจนกระทั่งการตั้งทฤษฏี Fanmade ขึ้นมาว่า ที่จริงแล้วกระดานแผ่นนั้น สามารถแบ่งให้คนสองคน อย่างแจ็กแล้วก็โรสขึ้นไปลอยตัว บนนั้นได้หรือเปล่า

แน่นอน ว่าผู้กำกับและก็ผู้เขียนบท ด้วยตัวเองอย่างคาเมรอน

คงเอือม ๆ กับการต้องมานั่งอธิบาย โต้เถียงว่า ทำไมเขาถึงเขียนบท ให้แจ็กตาย แล้วเพราะอะไรไม่เขียนบท ให้โรสแบ่งไม้กระดาน ให้แจ็กขึ้นมาลอยน้ำ พร้อมกันเพื่อจะได้รอดกันทั้งสอง

ปัจจุบัน คาเมรอนได้ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ กับเว็บไซต์ The Toronto Sun ว่า เพื่อจะลบล้างทฤษฏี แฟนเมดนี้ลงอย่างสมบูรณ์ แบบได้สักที ในการถ่ายทำสารคดี เกี่ยวกับหนังเรื่อง Titanic ของ เนชันแนล จีโอกราฟฟิก (National Geographic) เขาจึงได้ให้นักวิจัย ทำการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ ด้วยการศึกษาวิจัยผ่านการจำลอง สถานการณ์ในหลาย ๆ รูปแบบ เพื่อรับรองว่า ไม้กระดานนี้ไม่สามารถ รับน้ำหนักของคนสองคนได้ และไม่ว่าจะอย่างไร แจ็ก ดอว์สัน ก็ไม่รอดอยู่ดี

“เราได้ทำการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ เพื่อคลายข้อสงสัยเหล่านั้น และเพื่อให้เข้าถึง แก่นแท้ของมันจริง ๆ ตั้งแต่นั้นมา เราได้ทำการวิเคราะห์ ทางนิติวิทยาศาสตร์ อย่างละเอียดถี่ถ้วน กับผู้เชี่ยวชาญด้าน *ไฮโปเธอร์เมีย (Hypothermia) และทำการจำลองแผ่นไม้ ที่อยู่ในหนัง เพื่อที่เราจะทำสิ่งพิเศษ กับมันนิดหน่อย ตอนที่หนังจะได้กลับ เข้าไปฉายในเดือนกุมภาพันธ์”

“เราได้ให้สตันต์แมนสองคน ที่มีน้ำหนักตัวพอ ๆ กับเคต (เคต วินสเลต Kate Winslet) แล้วก็ลีโอ (ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ Leonardo DiCaprio) และเราก็ทำการติดเซ็นเซอร์ ทั่วร่างกายทั้งข้างนอกรวมทั้งด้านใน ก่อนที่จะให้พวกเขาลงไป ในถังน้ำแข็ง ก่อนเราจะทดสอบว่า พวกเขาจะรอดตาย ด้วยวิธีการต่าง ๆ ได้หรือเปล่า และก็คำตอบก็คือ ไม่มีทางที่ทั้งสองคนจะรอดชีวิตได้ มีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่จะรอด”

Titanic แต่ละฉาก

ก่อนหน้าที่ผ่านมาในปี 2013 รายการทดลองทางวิทยาศาสตร์

ชื่อดังอย่าง Mythbusters ทางช่อง Discovery Channel ก็ยังเคยเอาทฤษฏีนี้ ไปทดลอง โดยพิธีกรได้ทฤษฎีว่า แจ็กจะสามารถมีชีวิตรอดได้ด้วยการผูก เสื้อชูชีพของโรสไว้ใต้แผ่นไม้ เพื่อช่วยในการพยุงตัว ซึ่งพิธีกรทั้งสองก็ได้พิสูจน์ ให้เห็นว่า คนสองคนสามารถลอยน้ำได้ บนแผ่นไม้จริง ๆ

ซึ่งคาเมรอน ก็เคยออกมาโต้เถียงการทดลองนี้ และการันตีถึงเหตุผลเกี่ยวกับการตาย ของแจ็กว่า นั่นก็เป็นเพราะจุดประสงค์ทางศิลปะนั่นเอง นอกจากนี้แล้วเขาเอง ก็ยังต้องการจะการันตีด้วยการทดสอบคราวนี้ว่า

ถึงแม้แผ่นไม้แผ่นนั้น จะมีที่ว่างสำหรับสองคน และในที่สุดแจ็กจะขึ้นไปบนแผ่นไม้ได้ แต่ในที่สุดมันก็ไม่มีแรง พยุงมากพอ ที่จะทำให้คนสองคน ลอยน้ำได้โดยไม่จม และต้องไม่ลืมว่า อุณหภูมิอากาศรวมทั้งน้ำในขณะนั้นหนาวยะเยือก ในระดับติดลบด้วย การดำน้ำลงไปผูกเสื้อ ชูชีพใต้แผ่นไม้ จึงน่าจะทำได้ยากมากๆ

ในการสัมภาษณ์กับ Vanity Fair คาเมรอนได้อธิบายว่า ต่อให้แจ็กจะป่ายขึ้นไปบน แผ่นไม้ได้ก็ตาม แต่ท้ายที่สุด แจ็กก็ต้องตายอยู่ดี โดยเขาบอกว่า

“ผมคิดว่า มันเป็นเรื่องไร้สาระจริง ๆ ที่ 20 ปีต่อมา เราก็ยังคุยเรื่องนี้กันอยู่ แต่มันก็แสดงให้เห็นว่า หนังเรื่องนี้มีผล ทำให้แจ็กเป็นที่รักของผู้ชม จนทำให้พวกเขารู้สึกเจ็บปวด ที่ต้องเห็นเขาตาย หากเขายังอยู่ ตอนจบของหนังเรื่องนี้ คงไม่มีความหมาย…เพราะหนังเรื่องนี้ เกี่ยวกับความตายและการพลัดพราก เขาจึงต้องตาย มันเป็นเหตุผลทางศิลปะ ไม่ใช่เหตุผลทางฟิสิกส์”

เฟิด คาริญญ์ยวัฒ ร้องนำ

“เฟิด” เปิดปากเรื่องหัวใจ รัก “แม็กซีน” พอดีทุกอย่าง เจอกันในวันที่เปลี่ยนตัวเองแล้ว

โลกทั้งใบเป็นสีชมพู หนุ่มมาดเข้ม “เฟิด คาริญญ์ยวัฒ” นักร้องนำวง สล็อตแมชชีน เปลี่ยนเป็นหนุ่มคลั่งรัก กับสาวหน้าใส “แม็กซีน–อินทิพร” เปิดเผยมุมสุดหวาน นักร้องกะน้องรักในไอจี เลยจะต้องชวน เฟิด มาเปิดใจถึงความรักคราวนี้

แม็กซีนทำให้โลกเราเปลี่ยนไปมั้ย?

“ จริง ๆ เราเปลี่ยนตัวเองก่อน บางทีอาจเป็นกฎแห่งแรงดึงดูดด้วย แต่ว่าจริง ๆ สิ่งที่ยากคือการเปลี่ยนตัวเองก่อน ผมว่าคนทุกคนทราบดีว่าตนเอง ต้องการอะไรแต่ยังไม่ยอมเปลี่ยน ผมก็ใช้เวลานานเช่นกัน กว่าจะเปลี่ยนตัวเองขนาดนี้ ”

เฟิด คาริญญ์ยวัฒ แฟน

เฟิด คาริญญ์ยวัฒ มันมีจุดเปลี่ยนตรงไหนมั้ย?

“ คงเป็นช่วงโควิด-19 แล้วก็เพราะเลิกกับแฟนคนก่อน ผมมองว่าเราจบอย่างเดิมตลอด เลยกลับมาทบทวนตัวเอง ว่าเราเปลี่ยนคน แต่มันเป็นเรื่องเดิม ๆ ปัญหาเดิม ๆ เพราะว่าเราไม่เคยเปลี่ยน เราเป็นอย่างนี้มาตลอด มันก็จะเป็นผลลัพธ์เดิม ”

แม็กซีนเจอเฟิด ในเวอร์ชันเปลี่ยนไปแล้ว?

“ ใช่ครับ เค้าเองก็เปลี่ยนไปแล้ว จักรวาลก็เหวี่ยงมาเจอกัน ในเวลาสมควร ”

ปิ๊งตั้งแต่แรกเจอ?

“ ไม่เลยครับ จริง ๆ แม็กซีน ก็อยู่ในวงการมาก่อน เคยเจอกันในรายการเพลง อะจ๊าก ของ CheezTV เลยเป็นเพื่อนกันในโซเชียล แต่ว่ามิได้เคยรู้จักตัวตน หรือคุยกันมาก่อน มาพบกันจริง ๆ หลังโควิด-19 จะไปทริปทำบุญ ไหว้พระที่ถ้ำนาคา แล้วเห็นน้องเค้าอยู่ที่นั่นพอดี เราเลยทักว่าไปอย่างไรอะไร ธรรมชาติของเค้า เป็นคนจิตใจดีช่วยคน แบบที่เราคิดว่า จะต้องช่วยขนาดนี้เลยเหรอ คือเอาตัวมาพาไปเลย เค้าชอบด้วย เลยอยากไปอีก

หลังจากนั้นใช้เวลาอีกหลายเดือนเลย ค่อย ๆ ศึกษากัน มันเป็นเวลาสั้น ๆ แต่มันก็เข้มข้นมาก คุณพ่อผมป่วย คุณพ่อผมเสียเค้าก็อยู่ในช่วงเวลานั้น ส่วนของเค้าเอง เค้าก็สร้างตัวตนใหม่ เค้าออกจากวงการ ไปทำธุรกิจของตนเอง มันมีหลาย ๆ เหตุการณ์ที่พิสูจน์หลายอย่าง ”

ใครจีบใครก่อน?

“ ถ้าทักเค้า ผมทักก่อน แต่ว่าคราวนี้ไม่เหมือน ความสัมพันธ์ทุกครั้ง เพราะว่าเหมือนเราไม่ได้จีบกัน ไม่ได้เริ่มจากความชอบ เริ่มจากความเป็นมิตรที่ดี ”

ในเวลานี้ดูหวานคลั่งรักมาก?

“ คลั่งรักครับ ผมว่ามันเป็นธรรมชาตินะ เราไม่ได้ปิดบังทุกอย่าง ทำไปโดยธรรมชาติ แต่ว่าแค่ช่วงเวลาตีกัน มันไม่มีใครมาถ่าย(ยิ้ม) เราก็คือมนุษย์ 2 คน ”

คนแซวเราเยอะมั้ย?

“ ไม่ค่อยแซวหรอก แต่ทำให้ผมมีความรู้สึกว่าเค้ามายินดีด้วย ผมรู้สึกกับคำว่า เห็นพี่มีความสุข ”

สิ่งที่ประทับใจในตัวเค้าที่สุด?

“ มันพอดีทุกอย่าง ไม่มาก ไม่น้อย เราแบ่งปันกันทุกอย่าง เลยมีความเป็นเพื่อนพี่น้อง เป็นครูนักเรียน สอนบทเรียนซึ่งกันและกัน เค้าเป็นคนใจร้อน ผมเป็นคนใจเย็น เค้าไฮเปอร์มันก็ดึงผม ซึ่งเป็นคนเฉื่อย ๆ ขึ้นมา ”

เฟิด คาริญญ์ยวัฒ เที่ยว

ในไอจีเลยได้เห็น อีกมุมของเฟิด ที่คนไม่ค่อยเห็น?

“ ใช่ เนื่องจากว่าผมก็สบายใจ ที่จะถ่ายทอดออกไป ไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องทำเพราะ หน้ากล้องกับหลังกล้อง ก็เหมือนที่ทุกคนเห็น ”

มีอะไรที่ต้องปรับกันอีกมั้ย?

“ ไม่ได้คาดหมายหรือตั้งอะไรไว้ เมื่อก่อนถ้ามันดีมาก ๆ เราก็จะคาดหวังให้มันดีตลอดไป แต่ ณ ตอนนี้ เราก็ทำให้เป็นธรรมชาติ แต่สิ่งสำคัญ คือเราคุยกันและยอมรับฟังจริง ๆ จริง ๆ เราจะเลิกกันหลายหนนะ แต่ว่าเราหันมาคุยกัน แฟร์กัน ถ้าเกิดผิดก็ยอมรับ ขอโทษให้อภัย ให้เกียรติซึ่งกันและกัน เนื่องจากว่าแต่ละคนก็พบกัน ในช่วงเวลาที่รักตัวเอง แล้วก็เคารพตนเองมากพอ ”

ใครหวานกว่ากัน?

“ จริง ๆ ผมเป็นคนโรแมนติกนะ ”

มองรักครั้งนี้ไปข้างหน้ายังไง อยากให้คนนี้คือคู่ชีวิตมั้ย?

“ จริง ๆ เวลาผมมีความรักทุกครั้ง ผมมองถึงเป็นครอบครัวหมด ทุก ๆ ความสัมพันธ์ผมคบและคิดว่าคนนั้น จะเป็นแม่ของลูกอยู่แล้ว เราก็มองไว้ แต่ไม่ได้คาดหวังว่า มันต้องเป็นอย่างนั้น เท่าแต่ก่อนแล้ว ก็ปล่อยให้มันเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่ได้กะเกณฑ์อะไร ”

เรากลับมาทัวร์คอนเสิร์ตเยอะ ๆ เค้าเข้าใจมั้ย?

“ เค้าเข้าใจ ให้เกียรติเรารวมทั้งภูมิใจกับเราด้วยครับผม ”

เฟิด– คาริญญ์ยวัฒ ดุรงค์จิรกานต์ คือนักร้องนำ วงร็อกในตำนาน ที่สร้างเพลงดี ๆ มากมายมาร่วม 16 ปี อย่าง Slot Machine หลายคนรวมทั้งเรามีภาพจำ กับเขาในฐานะ เฟิด Slot Machine เจ้าของเสียงร้องมีเสน่ห์ สัญลักษณ์มือสามเหลี่ยม

ที่มาคู่กับ การแสดงบนเวทีคอนเสิร์ต ที่พาทุกคนกระโดดกันสุดตัว แน่ ๆ ว่าเราเองก็กระโดด ไปกับเพลงของ Slot Machine มานับไม่ถ้วน และมีเพลงโปรด ติดเพลย์ลิสต์ ที่เปิดฟังอยู่บ่อย ๆ อย่างเพลง ผ่าน, จันทร์เจ้า, คำสุดท้าย, ฝัน, รอ, เคลิ้ม และก็ เปลือก

เจนนี่ รัชนก ไปดูดวง

“เจนนี่” ควงสามี “ยิว” ดูดวงครั้งแรก อึ้งถูกหมอดูทักแม่นจนขนลุก

พูดได้ว่าเป็นคู่รัก มีชื่อเสียงที่นอกจากลัคกี้อินเกมแล้ว ยังเป็นคู่ที่อินเลิฟ เอามาก ๆ สำหรับนักร้องสาวแดนสตอ เจนนี่ รัชนก แล้วก็สามีหนุ่ม ยิว ฉัตรมงคล สมแก้ว ที่มีคนติดตามเป็นล้าน ๆ

แถมคุณแม่ป้ายแดง ยังได้ให้กำเนิด บุตรสาวคนแรก ออกมาให้ยลโฉม จนตอนนี้กลายเป็นขวัญใจ ชาวโซเชียลไปแล้ว

เจนนี่ รัชนก เที่ยว

ปัจจุบัน เจนนี่ ในช่องยูทูบตัวเอง “ยิวเจน Channel” ที่แอบควงสามี ไปมูเตลู

ที่สำนักเต็งหนึ่ง พร้อมเปิดเผยว่า เป็นครั้งแรกที่สามี ยอมดูดวง กับ แม่หมอเมรี ณิชานันท์ เจ้าของฉายา แม่หมอเน็ตไอดอล แถมยังเสริมดวง สักลายมือ

ซึ่งด้าน เจนนี่ ได้เปิดเผย ในคลิปถึงการมูเตลู ในครั้งนี้ว่า ” นานทีปีหนที่จะควงคุณสามีไปดูดวง จริง ๆ ส่วนตัว เป็นคนไม่ค่อยเชื่อ เรื่องดวงสักเท่าไร เพราะว่ากลัวหมอดู จะทักอะไรที่ไม่ดี กลัวจะเป็นแพนิก แล้วก็จะรู้สึกเคลียด รวมทั้งคิดไปเอง

แล้วก็การมาที่นี่ คือสามีชวนไปดู เพราะว่าถ้าได้ทราบอะไรไว้ เราก็จะนับเป็นแนวทาง ในการใช้ชีวิต รวมทั้งเตือนสติ รวมทั้งเรื่องนี้ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล เพราะว่ามาที่ สำนักเต็งหนึ่ง มาถึงก็จุดธูป เราก็ขนลุกมาก ๆ ไหว้กุมารไข่ดำ ที่คนดัง ๆ มาขอพร แล้วก็แก้บนกันมากมาย

ที่สำคัญ ได้มาเจอ แม่หมอเมรี สำนักเต็งหนึ่ง แล้วก็แม่น้ำปั่น ยังย้ำว่าทั้งคู่นั้น ดูดวงแม่นมาก ทักในหัวคิดแต่เรื่องเงิน งานนี้บอกเลยจะต้องรอรับความปัง หลังจากไปมูเตลู เสริมดวงจัดเต็มมาแล้ว ”

เจนนี่ รัชนก บ้านใหม่

เปิดภาพบ้านใหม่ เจนนี่ รัชนก ได้หมดถ้าสดชื่น ได้ที่ถูกใจ หลังหามานาน 4 เดือน

ภายหลังนักร้องลูกทุ่งสาว เจนนี่ รัชนก สุวรรณเกตุ หรือ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ซื้อบ้านหลังใหม่ ที่กรุงเทพมหานคร แต่ว่าหลังจากนั้น เจ้าตัวก็ตัดสินใจเปลี่ยนบ้านหลังใหม่ เพราะว่าอยากได้บ้าน ที่ใหญ่กว่าเดิม จนท้ายที่สุด ก็เจอบ้าน ที่ถูกใจแล้ว หลังใช้เวลาหานานกว่า 4 เดือน

โดย เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น โพสต์ภาพตัวเอง กับบ้านตัวอย่าง ของโครงการ พร้อมด้วยเขียนใจความว่า “ รอบนี้ 4 เดือนเต็ม ๆ กับการหาซื้อบ้านใหม่ ที่กรุงเทพ สาเหตุที่เปลี่ยนบ้านเพราะว่าอยากได้หลังที่ใหญ่กว่าเดิม จนท้ายที่สุดก็หาบ้าน ที่ถูกใจได้สักทีค่ะ จัดไปหลังนี้ เพื่อซื้อสิ่งแวดล้อมแล้วก็สังคมให้ลูก แล้วก็เพื่อครอบครัวใหญ่ในอนาคต

ในรูปเป็นบ้านตัวอย่าง ของโครงการนะคะ ที่เจนนี่ซื้อเป็นหลังใหม่กำลังสร้างค่ะ เสร็จโดยประมาณกลางปีหน้า ภายหลังจากนี้ก็จัดเตรียมทำงานหนัก เพื่อหาเงินกันต่อค่ะ ท่องไว้ เพื่อลูก เพื่ออนาคต เพื่อครอบครัว ฉันทำได้ ลุยยยย

หลาย ๆ คนสงสัยเพราะอะไร ไม่ใหญ่กว่านี้ไปเลย บอกตรง ๆ บ้านใหญ่ ๆ ใคร ๆ ก็อยากมี แต่ว่าเจนนี่ไม่อยากเกินงบ ไม่อยากเป็นหนี้ อยากมีเงินเหลือไว้ ให้ลูกเรียนในอนาคต รวมทั้งที่สำคัญ ถ้าซื้อเกินตัว กลัวจะกลับไปจน เอาไว้ให้มีเงินมากกว่านี้ก่อน แล้วค่อยว่ากัน ”

อีกทั้งยังเขียนใจความ เพิ่มในคอมเมนต์ว่า “ ส่วนหลังที่ซื้อปัจจุบัน เจนนี่จะปล่อยขายนะคะ ใครสนใจทักแอดมิน ในแชทเพจได้เลยค่ะ ไปดูเป็น 30 โครงการ ดูเองทุกที่ ถามเองหาข้อมูลเองหมด กลัวไม่ถูกจ ”

โดยมีแฟน ๆ คอมเมนต์ยินดี เป็นจำนวนมาก พร้อมด้วยชื่นชมความเก่ง ของนักร้องสาว บ้างก็บอกว่าคิดถูกแล้ว เก็บเงินไว้เพื่ออนาคตลูก เดี๋ยวมีเหลือเยอะ ๆ ค่อยเปลี่ยนใหม่ ไฉไลกว่าเดิม ฯลฯ

เจนนี่ รัชนก สามียิว

เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ขอบคุณทุกคำด่า แต่ว่าวันนี้เปลี่ยนเป็นคนใหม่แล้ว

ตั้งแต่มีลูก แต่งงาน นักร้องสาว เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น หรือ เจนนี่ รัชนก สุวรรณเกตุ ก็สารภาพเลยว่า กลายเป็นคนที่ ใจเย็นขึ้นมาก ภายหลังที่แต่ก่อนเป็นคนหัวร้อนสุด ๆ รวมทั้งเคยอยู่ในจุดอันตราย ที่ใครเตือนก็ไม่ฟัง แต่ว่าเมื่อมี ยิว ฉัตรมงคล เข้ามาในชีวิต ทุกอย่างดีขึ้น กว่าเมื่อก่อนมาก

ปัจจุบันในรายการ เม้าท์อยู่กับปากอยากอยู่กับคิ้ม EP.80 ทางช่องยูทูบ ที่มี เจนนิเฟอร์ คิ้ม เป็นพิธีกร เจนนี่พร้อมด้วยยิว ก็ได้มาเปิดใจ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต อยู่ในจุด ที่มีคนกดไลค์ 5 แสน แต่ว่าด่าแสนห้า

เจนนี่ เปิดเผยว่า ตั้งแต่มี ยิว เข้ามา ทำให้เป็นคนใจเย็นขึ้น เพราะว่าเขาเป็นคนใจเย็น เลยทำให้เรา ใจเย็นตามเขา เมื่อก่อนไม่ว่า จะพูดหรือจะทำอะไร ก็ทำเลย เป็นคนหัวร้อนมาก คนไหนพูดหรือด่าอะไร ไม่ได้เลย แต่ว่าพอเราโตขึ้น ได้ฟังคำพูดจากยิว เราก็ดีขึ้น

ด้วยความที่เราเจอดราม่ามาเยอะ โตขึ้นก็อยากจะสอน ให้ลูกรับให้ได้กับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น แทนที่จะไปด่า คนที่มาด่าลูกเรา เราสอนให้ลูกให้อภัยรวมทั้งรับได้ดีกว่า

เจนนี่ กล่าวว่า ตัวเองเคยอยู่ในจุดที่อันตรายที่สุด ในจุดที่คนไหนเตือนก็ไม่ฟัง จุดที่เราคิดว่ามีสิทธิ์อะไร มาเตือนเรา สำเร็จเท่าเราแล้วหรือยัง แต่ว่านั่นคือความเชื่อที่ไม่ถูกมาก เมื่อใดก็ตาม ที่คนเตือนเราไม่ได้ นั่นแสดงว่าเราอัตรายแล้ว ชีวิตเราจะต้องลงแล้ว เขาเตือนมา อันไหนจริงก็ปรับให้ อันไหนไม่จริง เราก็เก็บเอาไว้ในใจ ไม่ต้องไปโต้ตอบ มันดีที่สุดแล้ว

 

เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน เปิดใจ

“เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน” เล่าเคยคิดสั้นฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ เผยมีแฟนแล้ว!

นักแสดงสาวสวย “เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน” ที่เบื้องหน้าเป็น คนเฮฮา แต่ว่าหลายคนยังไม่รู้ เจ้าตัวป่วยเป็น โรคซึมเศร้ามาตั้งแต่เด็ก รวมทั้งอาการหนักขึ้น จนเคยฆ่าตัวตาย มาแล้ว พร้อมเปิด ใบหน้าแฟนหนุ่ม ที่นี่ที่แรก ซึ่งเป็นญาติของ จิน สามีหนิง ปณิตา ทุกประเด็น ในรายการคุยแซบ SHOW ออกอากาศ ทางช่องวัน 31 ที่มีพีเค ปิยวัฒน์ รวมทั้งเป๊กกี้ ศรีธัญญา ดำเนินรายการ

เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน คุยแซ่บโชว์

เสียใจด้วยเรื่องคุณพ่อ? เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน

เฌอเบลล์ : ขอบคุณค่ะ เรื่องเพิ่งเกิดเดือนนิด ๆ ค่ะ ในขณะนี้เข้าใจว่า มันเป็นธรรมชาติ ทำใจได้แต่ว่ายังไม่ชิน มากกว่า กิจกรรมที่เราทำกัน ตลอดมันหายไป เราเห็นการถดทอย ของช่วงวัยชราจนวันที่ เค้าจะไป เค้าก็โทรถามหาเราตลอด แต่ว่าเราติดงานอยู่ บินไปไม่ได้ที่ภูเก็ต กว่าจะได้กลับไป เป็นอีก 5 วัน ในช่วงนั้นจิตใจ ไม่ดีตลอด เค้าจะไปวันไหน ก็ได้วินาทีไหน ก็ได้ใน 5 วันนั้น หนูก็ได้แต่ว่าภาวนา ได้กลับไปบอกลาสักคำนึง ซึ่งก็เป็นแบบนั้นเค้าให้เวลาหนูเยอะอยู่ เค้าแค่บอกเรา ว่าเค้าจะนอนแล้วนะ กลับไปอยู่บ้านกันไปได้แล้ว ถอดออกซิเจนออก เค้าบอกยังงี้

ซึมเศร้ากลับมากำเริบ?

เฌอเบลล์ : จริง ๆ มันจะมีขึ้น ๆ ลง ๆ บ้าง แต่ว่ามันกลับมาช่วงจังหวะโควิด งานไม่สเถียรแต่ว่า เรามีค่าใช้จ่ายปกติ เป็นห่วงด้วย เราอยู่กับคนอายุเยอะ เครียดไปหมดจะหาเงินจากไหน คุณพ่ออาการทรุดลงเรื่อย ช่วงโควิด มันเห็นชัดมาก

เป็นโรคซึมเศร้ามาตั้งแต่เด็กๆ?

เฌอเบลล์ : ใช่ค่ะ ไม่ได้โทษใคร เราเข้าใจว่าผู้ที่เป็นพ่อแม่คน จะต้องพร้อมสำหรับในการจะเลี้ยง คุณแม่หนูเป็นคุณแม่ ที่เก่งแต่ว่าเค้ายังไม่พร้อม ณ จุดนั้น ด้วยเหตุผลดังกล่าวสำหรับการรับมือ เด็กคนนึง ที่มีภาวะเป็นไฮเปอร์ด้วย รับมือยาก เราเป็นผู้ที่ อ่านกลับหลังด้วย กว่าเราจะทราบเรา ต้องไปหาจิตแพทย์ ตั้งแต่เด็กอันนี้ ที่เมืองนอก มีปัญหากับสารเคมีในสมอง แล้วบวกับเรา เป็นคนเซนซิทีฟมาก เพียงดุเบา ๆ เราจะเสียใจมากแล้ว ด้วยที่เรา เป็นเด็กดื้อ เค้าบางทีอาจดุเรา มากยิ่งกว่าปกติ เค้าเลี้ยงแบบดุ ๆ หน่อยเลยทำให้เรา เป็นเด็กเก็บกดด้วยค่ะ เป็นเด็กเก็บตัว ไม่ค่อยคบเพื่อน มีเปลี่ยนสภาพแวดล้อมตลอด

เราพยายามสู้กับมันมาตลอด?

เฌอเบลล์ : ด้วยความที่เรา ไม่เข้าใจเราทำอะไรผิด แม้กระทั่งการสั่งกลับหมดเลย คุณแม่ก็ยังไม่เข้าใจ เนื่องจากว่าเค้ายังไม่ทราบ ปัจจุบันนี้ดีขึ้น มีฝึกการพัฒนา ทำกิจกรรมเรื่อย ๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้สมองเรา พออายุ 12 มาไทย ก็ต้องปรับตัว เนื่องจากว่าต้องพูดภาษาไทย

พูดไทยได้เมื่อไหร่?

เฌอเบลล์: เริ่มเข้าวงการเลยค่ะ เรื่องแรกที่หนูเล่น ยังให้คุณแม่ช่วยอ่าน แล้วเขียนภาษาไทยคาราโอเกะ คนภายในกองก็คอยแปลให้

ตอนเป็นนางเอกเรื่องแรกไม่มีความสุขเลย?

เฌอเบลล์ : คุณแม่เลี้ยงมาแบบไทย สไตล์ไม่มีชม แนวกดดัน คุณพ่อจะเลี้ยงแบบฝรั่ง เป็นเหตุและผล มีการชม ซึ่งเราชอบแบบคุณพ่อ แต่ว่าพอเจอแบบคุณแม่ ตั้งใจทำดีมาก ต้องการให้เค้าชม เค้าบอกทำได้แค่นี้เองหรอ เรารู้สึกเฟล มีความรู้สึกว่าเค้าไม่รัก เราหรือไม่ มันเป็นปมเล็ก ๆน้อย ๆ ของเรา

มีคนเขามาหาผลประโยชน์?

เฌอเบลล์ : เราเป็นคนคิดดี กับใคร ไม่คิดว่าใคร จะคิดไม่ดีกับเรา หรือต้องการอะไรจากเรา แต่ว่าบางครั้งทุกอย่าง ที่เค้าทำเป็นโอกาสของเค้า พอเรามารู้ภายหลัง มันเป็นต้นเหตุที่ทำให้เรา มีความคิดว่าไม่เหลือใคร นอกเหนือจากครอบครัว แล้วเพื่อนก็คืออีกครอบครัวนึงของ พอไม่เหลือทั้งคุณแม่ ทั้งเพื่อนเราเลย มีความคิดว่าไม่เหลืออะไรแล้ว ทั้ง ๆ ที่เรามีทุกอย่าง แต่ว่า ทำไมเราไม่เหลือความรัก ที่เราต้องการ

ทำให้คิดสั้น?

เฌอเบลล์ : มันเป็นมานาน ด้วยค่ะโดยที่เรา ไม่รู้ ไม่อาจจะหยุดติดได้เลย การทำงานที่ไม่ได้นอนด้วย เครียดด้วยหลาย ๆ อย่างรวมกัน ทำให้อาการซึมเศร้า หนักขึ้นเรื่อย ๆ

เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน สัมภาษณ์

คิดสั้นถึงขนาดไหน?

เฌอเบลล์ : ผูกคอตายเลย ไม่บอกใคร นั่ง ๆ มองเพดานเอาเชือกผูกเลย แขวนไปแล้วแตะเก้าอี้ มันรัดคอหายใจ ไม่ออกมันทรมานมาก น้ำตามันเริ่มไหลออกมา บอกตนเองไม่ได้อยากตายแล้ว แล้วจุดนั้นโคมไฟ ที่ไปแขวนกับผนังร่วงลงมา ครั้งแรกที่รู้สึกคือรอดแล้ว มันดีใจจนร้องไห้

อะไรทำให้สู้หลังจากนั้น?

เฌอเบลล์ : ไปพบหมอ แต่ก่อนไปพบหมอ เราชอบศึกษาอะไรเอง แล้วมีความคิดว่าที่เรา เป็นมันไม่ปกติ ก็อ่านเจอมีความรู้สึกว่า เป็นแต่ว่าไม่รู้ขั้นไหน เราไปบวชเจอกลุ่มนักบำบัด เค้าก็พาไปพบหมอ คุยกับคุณหมอ ก็ได้ทานยาทุกวันนี้ ยังต้องทานยา

ถ้าเกิดไม่ทานยาจะเกิดอะไรขึ้น?

เฌอเบลล์ : ถ้าเกิดหยุดเอง มันอันตรายมาก ถ้าเกิดหยุดเลยวันนึง อาการกำเริบจะเป็นหนักกว่าเดิม แล้วตัวยาที่เรา เคยกินมันจะใช้ไม่ได้ผล

เข็ดกับความรัก?

เฌอเบลล์: เข็ดมากค่ะ ตอนแรกเค้าก็เหมือนไม่เข้าใจ แต่ว่าสุดท้ายก็เข้าใจ เอาที่เราสบายใจแฮปปี้

ไม่เคยลงรูปคู่?

เฌอเบลล์ : ยังค่ะ มีรูปค่ะ แต่ว่าเราเก็บเอาไว้ในเครื่องเรา

อยากบอกอะไรเค้า?

เฌอเบลล์ : ขอบคุณมาก ๆ ที่เค้าใจเย็นกับหนู ขอบคุณที่รักรวมทั้งเอ็นดูเสมอ ขอบคุณที่เข้ามา เป็นทุกอย่างในชีวิต

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page

Aftersun ทริปพักร้อนพ่อลูก

รีวิวหนัง “Aftersun” ทริปพักร้อนพ่อลูก บาดลึกความสัมพันธ์ที่เต็มด้วยรอยร้าว

Aftersun ทริปพักร้อนพ่อลูก บางทีอาจต้องบอกตรง ๆ ว่านี่เป็นหนังที่ หลังจากดูจบลงไปแล้ว ต้องทำการตกผลึก และขบคิดไปสักพักใหญ่ นี่คือหนังจาก อังกฤษที่เปิดตัว ด้วยเสียงฮือฮา ในเทศกาลหนังเมืองคานส์

และถือได้ว่าเป็นหนึ่งใน ตัวเต็งรางวัลออสการ์ สาขาบทหนังในปีนี้ นี่คือ “Aftersun” หนังดราม่า ครอบครัวสไตล์โฮมวิดีโอ ที่ซ่อนไปด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูก ที่บาดซึมลึกแบบแทบกัดกินใจ และกลืนผู้ชมไปตลอดตัวเลยทีเดียว

Aftersun ความสัมพันธ์

Aftersun รีวิวหนัง

Aftersun เป็นเรื่องราว การนึกถึงช่วงเวลา ที่ความสุขวันวาน

ของโซฟีกับพ่อของเธอ ที่พวกเขาสองพ่อลูกเคยออกทริป ไปพักร้อนที่เมืองตากอากาศ ของตุรกี เมื่อสัก 20 ปีก่อน โดยความทรงจำเหล่านั้นได้ ถูกบันทึกเอาไว้ในกล้อง แฮนดี้แคมของพ่อ ที่เปิดเผยให้เห็น ความทรงจำ จินตนการ และระยะเวลาแห่งอารมณ์ ที่หลากหลายที่เกิดขึ้น ที่ทำให้เธอต้อง ประจันหน้ากับความสัมพันธ์ กับพ่อที่เธอรู้จัก กับผู้ชายที่เธอ ก็ไม่คุ้นเคยในบางวัน

นี่คือผลงาน การกำกับหนังยาว เรื่องราวของ “ชาร์ล็อต เวลส์” สาวนักสร้างภาพยนตร์ ชาวอังกฤษรุ่นใหม่ ที่กำลังเป็นที่ จับตามอง โดยเธอรับหน้าที่ ทั้งกำกับและเขียนบท ด้วยตัวเอง นั่นก็เลยเป็นเหตุผลที่

Aftersun เป็นหนังที่มี ความเป็นส่วนตัวในแบบฉบับ ของเธออย่างเด่นชัด ไม่ว่าจะเป็น การร้อยเรียงเรื่องราว การลำดับเรื่อง และการออกแบบมุมมอง ภาพต่าง ๆ ที่ออกมาเป็นแบบ หนังเรื่องราว ทุกอย่างค่อนข้างเสนอ ออกมาในแบบเฉพาะ

แม้ว่าจะต้อง ยอมรับตรง ๆ เลยว่า Aftersun บางทีอาจไม่ใช่หนัง ที่เหมาะสมกับทุกคน เพราะตัวหนังนั้น ก็มีความเฉพาะเจาะจง และเป็นตัวของตัวเอง ค่อนข้างสูง

การนำเสนอบางทีอาจจะไม่ใช่ หนังที่ดูง่าย สักเท่าไหร่นัก กับจังหวะหนัง ที่ยังต้อง ใช้กระบวนการ ขบคิดตามอยู่เรื่อย ตามไทม์ไลน์ของหนัง ที่แม้ว่าผู้ชม ได้ติดตามเรื่องราว ให้ดีนั้น ก็บางทีอาจหลงทาง ได้เช่นกัน

ถ้าเกิดถามบทหนัง Aftersun ดีเยี่ยมถึงขั้น ล่ารางวัลได้หรือเปล่า ก็บางทีอาจต้องว่า..ก็ได้ เพราะบทหนัง เรื่องนี้เต็มไป ด้วยความซับซ้อนและแนวคิด เชิงซ้อนที่ทับถมกันเรื่อย ๆ ในชั้นบรรยากาศ ของหนังเอง ผิวเผินบทบางทีอาจดูไม่มีอะไร

และทำการสื่อสาร กับผู้ชมได้ค่อนข้างยาก กับไปไม่ถึงตัวผู้ชมสักเท่าไหร่ แต่ว่าถ้าเกิด มาพิจารณาอย่างถ่องแท้ดี ๆ แล้วจะพบว่า บทหนังเรื่องนี้ แฝงเอาไว้ ด้วยส่วนประกอบ ปลีกย่อยมากมาย เอาไว้ให้ผู้ชม ได้กลับไปคิด ทบทวนกันต่อ

มั่นใจว่าหลาย ๆ คน ที่ดูหนัง Aftersun เรื่องนี้จบลงแล้ว คงจะมีเรื่องที่น่าสงสัย อยู่ในหัวมากมาย เพราะการ เล่าเรื่องของหนังบางทีอาจ ไม่ได้มีการเกริ่นใด ๆ ออกมาอย่างชัดเจน

ไม่ได้มีการถ่ายทอดให้เห็นว่า อะไรคือผลเหตุ ของการกระทำต่าง ๆ เหล่านั้นที่เกิดขึ้นกับ ตัวละครของพ่อ ไม่ได้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ที่เด่นชัดระหว่างพ่อลูกคู่นี้ แต่ว่านั่น ก็กลายเป็นอีกหนึ่ง เสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ นั่นเอง

Aftersun หนัง

ในเมื่อหนัง มาในทิศทางนี้ ก็ต้องพึ่งพา การแสดงที่มั่นคง

มาช่วยเอาไว้ และก็ “พอล เมสคัล” เป็นเพชรเม็ดงาม จากอังกฤษ ที่เขาได้เจิดจรัส กับการแสดงอีกครั้ง เขาเพิ่งจะแจ้งเกิดมาจาก The Lost Daughter เมื่อปีก่อน ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งจะมี God’s Creatures ที่ได้รับคำชม เช่นกัน

มาในเรื่องนี้ เขาก็มอบการแสดง ที่เต็มไปด้วยมิติและน่าค้นหา อย่างดีเยี่ยม แถมบทที่ เขาได้รับจัดว่า ค่อนข้างเกินวัย ของตัวเขาเองอยู่ เขาคือส่วนประกอบที่เด่น ที่ออกแบบบทบาทนี้ ออกมาได้ อย่างจับจิตจับใจ

ขณะที่ผลงาน การแสดงเรื่องแรกของ “แฟรงกี้ โคริโอ” ที่ต้องปรบมือ ให้จริง ๆ นี่คือนักแสดงเด็ก ดาวรุ่งที่เพิ่งเปิดตัว แจ้งเกิดมา จากหนังเรื่องนี้เรื่องแรก แต่ว่าเธอก็สามารถ ถ่ายทอดบทบาทออกมา ได้อย่างธรรมชาติและแทรกซึม เข้าไปถึงบทบาท ได้อย่างน่าอัศจรรย์

ทั้งเสน่ห์และการแสดง ที่น้อยแต่มาก ยิ่งทำให้เด็กสาวคนนี้ มีออร่าฉายแสงขึ้น มาบนจอ และเป็นส่วนประกอบ ที่ส่งเสริมลงตัว ได้อย่างดีในหนังเรื่องนี้ ในภาพรวม

ปฏิเสธไม่ได้เลย ว่า  เหมือนพาผู้ชม มาย้อนดูความทรงจำ ที่ทั้งสุขทั้งทุกข์ของพ่อลูกคู่หนึ่ง ที่ค่อย ๆ ไต่ระดับอารมณ์และความสัมพันธ์ ในช่วงเวลาแห่ง การท่องเที่ยวในตอนปิดภาคเรียน ที่ได้เผยมุมมองต่าง ๆ ของแต่ละฝ่าย

จากโครงการครอบครัว ที่แหลกสลายลงไปแล้ว ความไร้เดียงสาของเด็กสาว ที่กำลังเติบใหญ่เป็นสู่วัยรุ่น มาเจอกับชายหนุ่ม ที่ย่างสู่วัยกลางคน ที่เผชิญหน้ากับ ห้วงชีวิตที่แสนซับซ้อน เป็นความคอนทราส ที่ถูกนำมาผสมเข้ากัน ในเรื่องนี้

เป็นหนึ่งในโปรแกรม ฉายในเทศกาล หนังนานาชาติกรุงเทพฯ ครั้งที่ 15 ที่กำลังจัดขึ้นอยู่ ขณะนี้ แต่ว่าหนังก็จะเข้าฉาย รอบปกติในพักหลัง จากเทศกาลปีใหม่นี้ ถึงหนังจะไม่ใช่ หนังที่เหมาะสมกับทุกคนดูก็ตาม

แต่ว่าอย่างน้อย ๆ ข้อความของหนังเรื่องนี้ ที่พยายามสื่อสาร ออกมานั้น ก็ค่อนข้างทรงพลัง ระหว่างสายใยพ่อลูก เป็นความทรงจำ วันวานของครอบครัว ถวิลหาแห่งกลิ่นของยุค 90s เบา ๆ เป็นหนังดี ที่บางทีอาจเข้าถึงยาก สักนิดสักหน่อย แต่ว่าทิ้งเอาไว้ด้วยความลึกซึ้ง ที่อบอวลทั่วหนัง

 

Violent Night รีวิวหนัง

รีวิวหนัง “Violent Night คืนเดือด” ได้ครบอรรถรสบันเทิง กับซานต้าผู้ครอบครองค้อน!

Violent Night คืนเดือด ย่างไปสู่ธันวาคม ท่วงทำนอง เพลงประกอบเทศกาล ก็เริ่มดังกังวานมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็มันก็ประจวบเหมาะ กับการมาของหนัง ที่เข้ากับตอนบรรยากาศ เช่นนี้ เพียงแต่ว่าปีนี้ เขาไม่ได้มาด้วยมาด ที่อบอุ่นเป็นที่รักของเด็ก ๆ เพียงอย่างเดียว

เพราะว่าคราวนี้เขามาเพื่อ..สู้กลับ กับหนังคริสต์มาส คอนเซ็ปต์น่าสนใจ “Violent Night คืนเดือด” ที่เป็นการผสมผสานทุกอรรถรส ความบันเทิงของหนังฮอลลิวูด เข้าหนึ่งเดียวได้โดยแท้

Violent Night ซานต้า

Violent Night คืนเดือด คือเรื่องราว ของกลุ่มทหารรับจ้าง

ที่ได้รับงานมา เพื่อจู่โจมเป้าหมาย เป็นตระกูลมหาเศรษฐี ที่กำลังฉลองในตอนเทศกาล แห่งครอบครัว งานนี้ถึงเวลาของ ซานต้าคลอส ที่จะต้องออกโรงบู๊ ในการกอบกู้สถานการณ์ ที่จะสามารถช่วยพิทักษ์โลก ปกป้องครอบครัวนี้ แล้วก็วันคริสต์มาส กลายเป็นมหกรรม การต่อสู้ที่แม้แต่ เวทมนตร์แห่งวันคริสต์มาส ยังมิอาจเทียบได้

แน่นอน ว่าแค่เห็นชื่อผู้กำกับ “ทอมมี่ เวอโกล่า” ก็น่าจะรับประกันได้ถึง ความโหดความดิบ อันมีสไตล์ของเขา แบบที่เขาเคยทำได้ เอาไว้ในหนังแจ้งเกิด Dead Snow ทั้ง 2 ภาค มาครั้งนี้ถือว่า ได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ขึ้น

ได้มาหยิบจับ สร้างสตูดิโอใหญ่ดูบ้าง แน่นอน ว่ามีอะไร ๆ ให้เขาได้เล่นแบบ ไม่ยั้งเพิ่มขึ้น มีเพียบ และไม่ปล่อยให้ลีลา การละเลงในบู๊ ตามจังหวะของเขาผู้นี้ต้องเสียเปล่าไป แล้วก็ยังสามารถสอดแทรก ประเด็นอื่น ๆ ตามใบสั่งเอาไว้ ได้อย่างบันเทิงใจต่อคนดูจริง ๆ

หนังเรื่องนี้ ได้คู่หูนักเขียน “แพต เคซีย์” กับ “จอช มิลเลอร์” ที่ Sonic the Hedgehog ทั้ง 2 ภาค ที่ผ่านมา มารับหน้าที่แต่งเรื่องราวบู๊ สุดอบอุ่นให้ คงต้องพูดว่า บทหนังก็มิได้สมบูรณ์แบบ อะไรเท่าไหร่ มาเป็นแพ็คสำเร็จ ของบทหนังแนวเทศกาล แบบเดิม ๆ

กลับใส่ลูกเล่น เอาไว้ได้แน่นเอียด เราอาจจะบัญญัติได้ว่า หนังเรื่องเป็นแนว แอคชั่นผสมตลก ซ้ำยังเป็นความเป็นหนังครอบครัว มีสไตล์ขี้เล่น เป็นเจ็บตัว แต่ว่าก็ขึงขัง ผสมโรงเรื่องอาชญากรรม ว้ำยังปะปน ความเป็นดราม่าเข้าไปได้อีก มีหลายอารมณ์ แล้วก็แนวทางในหนังเรื่องนี้ เรื่องเดียวมาก ๆ

Violent Night บู๊เดือด

และก็เมื่อนำองค์ประกอบ ทุก ๆ อย่าง รวมกันนั้น Violent Night คืนเดือด ก็เลยได้รสชาติที่ออกมา ได้บันเทิงโดยแท้ เนื่องจากว่าหนังสามารถแทรกเข้าไป ถึงทุก ๆ อณูของประเด็นได้ดี แม้ว่าจะเป็นแตะประเด็นนั้น ๆ

แค่ผิวเผินแค่นั้นก็ตาม มิได้ขยี้ไปสุดทาง แต่ว่าก็เป็นความผิวเผิน ที่ต่อเติมแขนขา ให้กับหนัง ได้มีอรรถรสที่สมบูรณ์เพิ่มขึ้น คอนเซ็ปต์ของหนังถือว่าเยี่ยม

เนื่องจากว่าเป็นการหยิบ สไตล์หนังครอบครัวฟีลกู้ด เกี่ยวกับคริสต์มาส ที่เรามักจะเห็นบ่อย ๆ มาโยงผูกเข้ากับ การโจรกรรมแอคชั่นสุดระห่ำ พล็อตแค่นี้ คอหนังเห็นก็ซื้อใจได้แล้ว

ถึงลำดับ การเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้ อาจจะไม่ได้กลมกล่อม ได้ถึงที่สุด หนังคงมีบางส่วน บางตอนที่ขาด ๆ เกิน ๆ ย้วยเกินไป หยาบเกินไป แล้วก็ติดอาการทีเล่นทีจริง ไปเยอะสักนิด แต่ว่าก็จัดได้ว่า หนังก็มอบทุกรสชาติให้กับ ผู้ชมได้เป็นอย่างดี

แล้วก็รู้ดีว่าคนดูอยากได้อะไร แล้วก็สามารถเข้าใจ กับตอบโจทย์นั้น ๆ ออกมาได้ดี เป็นหนังคริสต์มาส ที่เต็มไปด้วยฉากสยดสยองแล้วก็หวาดเสียว ที่เผลอ ๆ จะต้องร้องกรี๊ด ตามออกมาด้วย

“เดวิด ฮาร์เบอร์” ก็คือ ยืนหนึ่งแล้วก็แบกหนัง ทั้งเรื่องเอาไว้ ได้สบาย ๆ แบบคนเดียวเลย ทุกคนจะต้องหลงรักซานต้า ในรูปแบบของเขาตามกัน เนื่องจากว่านี่เป็นซานต้า ที่เสมือนจะสามารถ แตะต้องแล้วก็เข้าถึงได้ดี กว่าเรื่องอื่น ๆ

สามารถถ่ายทอดบทนี้ ออกมาเป็นนักสู้ธรรมดา ที่มีเลือดมีเนื้อ ไม่ได้เก่งโอเวอร์ เหนือธรรมชาติเกินไป สามารถปั้นคาแรกเตอร์ ออกมาได้สมน้ำสมเนื้อ แล้วก็เป็นคู่ต่อสู้ ที่สร้างความบันเทิงได้เด่น ในหนังเรื่องนี้

Violent Night ช่วยกัน

ขณะที่ทีมนักแสดงสมทบ ผู้อื่น

ก็ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐาน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะ ไม่ได้เด่นเท่ากับบทซานต้า แต่ว่าการมีทุกคน อยู่ในซีนร่วมด้วยกัน เป็นองค์ประกอบเสริมที่ดี ช่วยกันปล่อยมุกแล้วก็ส่งต่อกัน อย่างไหลลื่น ไม่ว่าจะเป็น “เบเวอรี่ ดีแองเจโล”, “จอห์น เลอกิซาโม”, “แคม จีกอนเดต์”, “อเล็กซิส ลาวเดอร์” หรือ “เอดี้ แพตเตอร์สัน” พวกเขาเป็นตัวขโมยซีน ที่เป็นสีสัน ให้กับหนังเรื่องนี้ได้ดีแท้

ด้วยเหตุนั้นโดยภาพรวมแล้ว Violent Night คืนเดือด ก็เลยกลายเป็น หนังที่เติมเต็มแล้วก็มอบความบันเทิง ได้ครบรสชาติ ให้กับผู้ชมโดยแท้

ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่หนังสูตรสำเร็จ ที่ทายได้ง่าย ๆ รวมทั้งเป็นความบันเทิง ที่เพลินแล้วก็สนุกไปตลอดทั้งเรื่อง เป็นหนังที่หยิกแกมหยอก ออกมาได้อย่างสร้างสรรค์ หยิบยืมหนังคริสต์มาสดัง ๆ มาใช้เป็นกลิ่นอายเรียกแขก บอกได้เลยว่า ทั้งบู๊ ทั้งฮา ทั้งอบอุ่น มันอบอวล อยู่ในเรื่องนี้ เรื่องเดียว ได้อย่างน่ามหัศจรรย์

 

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Violent Night คืนเดือด

ประเภท: แอคชั่น / ตลก / อาชญากรรม

ผู้กำกับ: ทอมมี่ เวอโกล่า

แสดงนำโดย: เดวิด ฮาร์เบอร์, จอห์น เลอกิซาโม, เบเวอรี่ ดีแองเจโล

ความยาว: 101 นาที

ระบุฉายในไทย: 1 เดือนธันวาคม 2022 (ในโรงหนัง)

 

พอร์ช ศรัณย์ พักปาร์ตี้

“พอร์ช ศรัณย์” คนใหม่เที่ยวจนอิ่มตัว ลดปาร์ตี้กู้คืนหุ่นเท่ ชอบเข้าป่าแคมปิ้งแฟนเข้าใจ

เติบโตถึงจุดที่นิ่ง พักปาร์ตี้ เดินสายธรรมชาติ เข้าป่าแคมปิ้ง พระเอกหนุ่ม พอร์ช ศรัณย์ ศิริลักษณ์ เปิดใจในงานฟิตติ้งละคร “เจ้าสาวในสายลม” ที่ไพเรท สตูดิโอ ซอยสุคนธสวัสดิ์ ว่า ตั้งแต่เป็นดาราอิสระ ทำให้มีความรับผิดชอบ มากขึ้น อิ่มตัวเรื่องปาร์ตี้ เป็น พอร์ช คนใหม่แล้ว

“ การเป็นนักแสดงฟรีแลนซ์ ก็ดีครับ สนุกดี ได้ไปออกรายการหลากหลาย ได้ไปเล่นเกมโชว์ ได้เจอนักแสดงใหม่ ๆ ทีมงานใหม่ ๆ สนุกดีครับ ช่วงนี้เริ่มทำ ช่องยูทูบด้วย เป็นแบบเข้าป่า ตัวก็อาจจะดำ ๆ หน่อย เป็นแนวแคมปิ้ง ติดเกาะ เราเป็นสายแคมปิ้งอยู่แล้ว มาเจอรุ่นพี่ ที่เค้าถ่ายอยู่แล้ว เขาเลยชวนลองทำ ก็เลยลองดู ทำมาหลายคลิปแล้ว แต่ยังไม่ได้ปล่อยเยอะ เวลาแคมปิ้งก็ไปคนเดียว ปกติไปคนเดียวแต่ มีทีมงานไปด้วย ผมว่าเสน่ห์ของการไปแคมป์ปิ้ง คนเดียวมันสนุก มันรู้สึกว่าได้ ไปนั่งทบทวนตัวเอง นั่งเหงา ๆ แล้วไม่เล่นโทรศัพท์ มัน ไม่มีสัญญาณด้วย แต่บางที่ก็มีนะไปเกือบทุกอาทิตย์ ไปอาทิตย์ละ 4 วัน แล้วกลับมากรุงเทพฯ ”

พอร์ช ศรัณย์ ทำยูทูบ

พอร์ช ศรัณย์ ไปแคมปิ้งทำทุกอย่าง ด้วยตัวเองหมด?

“ ใช่ มีติดไฟ จุดตะเกียงครับ สนุกดี ช่องยูทูบเปิดไปแล้ว Porshe Saran Channel ถ่ายคลิปรีวิวของเล่น ๆ ไปก่อน แต่คลิปแบบจริงจัง ถ่ายมาประมาณ 4-5 อันแล้ว ยังไม่ได้ปล่อย ”

วันเกิดปีนี้ดูเงียบ ๆ ไม่หวือหวา?

“ วันเกิดปีนี้ ผมอยู่แคมป์ไม่ได้ไปไหนเลย ไม่ได้จัดงาน จากปกติเราจะไปกับเพื่อนปาร์ตี้ แต่ปีนี้ไม่มี ก็แค่คุยกับเพื่อนในไลน์ แต่ตัวเราไปอยู่ต่างจังหวัด ตอนวันเกิดคงจะอยู่เขาใหญ่ อยู่ในแคมป์คนเดียว ก็มีคนที่อยู่รอบข้างที่มากางเต็นท์ ก็เม้าท์มอย เจอเพื่อนใหม่ ๆ ไม่เหงา สนุกดี เราอยู่กับแสงสี มาเยอะแล้วครับ เปลี่ยนบ้าง (หัวเราะ) ”

เกิดอะไรขึ้นจากเมื่อก่อนสายปาร์ตี้ ปัจจุบันนี้ชอบอยู่กับตัวเองคนเดียว เป็นนิวพอร์ชไปแล้ว?

“ ตอนนี้ไม่ไปเป็นปีแล้ว เราก็ 31 แล้วครับ ช่วงหลังมันเบื่อคนเยอะ มันอิ่ม มันเที่ยวมาเยอะแล้ว พอไปอยู่คนเดียวมันได้ ไปนั่งทบทวนตัวเอง ไม่เล่นโทรศัพท์ ตอนแรกมันบังคับเรา เพราะมันไม่มีสัญญาณ ก็นั่งงุ่นง่านอยู่คนเดียว ต้องเดินออกไปหาสัญญาณ แต่พอตอนหลัง ลองอ่านหนังสือ ก็โอเคครับ มันทำให้เราสงบขึ้น รู้สึกว่าตัวเอง มีความรับผิดชอบเพิ่มมากขึ้น กลับไปอยู่ที่บ้าน ทำไมบ้านรกจังวะ จัดบ้าน เก็บของ โละออกเอาของทิ้ง ”

เราก็รู้สึกมั้ยว่าตัวเอง เป็นนิวพอร์ช เป็นคนใหม่โตขึ้น?

“ ก็นิดนึงครับ (ยิ้ม) รู้สึกได้อยู่กับตัวเองเยอะขึ้น และก็คิดทำนู่นทำนี่ เพราะปกติเรา จะคิดอย่างเดียวว่า วันนี้ไปไหนดีวะ เพื่อน ๆ ก็มีงง มีแต่คนพิมพ์มาหาวันเกิด เฮ้ย ไปไหนไม่ชวนเลยว่ะ เราบอกไม่ได้ไป ปีนี้อยู่ป่า เพื่อนก็บอกโกหดก ช่วงนี้ก็หาที่ไปเที่ยวลาน เข้าป่า แคมปิ้ง ปัจจุบันนี้ลานแคมปิ้ง มันเยอะด้วย แต่เราจะไปลาน ที่คนน้อย ไพรเวตหน่อย ไปแล้วอยู่ประมาณ 3 วันแล้วกลับ ”

พอห่างปาร์ตี้ ปัจจุบันนี้ดูหล่อสดใสมากกว่าเดิมเลย?

“ ดีขึ้น ๆ (ยิ้ม) ฟรีแลนซ์และก็จะต้องมีความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น ต้องดูแลตัวเองขึ้นนิดนึงครับ ”

ลดน้ำหนักยากมั้ย กว่าจะได้กลับมาเหมือนเดิม?

“ เอาจริง ๆ ทำตัวเหมือนเดิมนะ แต่เพียงปาร์ตี้ลดลง ไม่ค่อยได้ไปไหนเลย ก็อยู่แต่บ้านประมาณ 3 วัน ก็ไม่ไหวแล้ว ต้องออกไปต่างจังหวัด แต่ตอนนี้หากเริ่มถ่ายทำ ถ้าออกต่างจังหวัด ผมก็จะไปแค่ชลบุรี จันทบุรี ระยอง เขาใหญ่ ใกล้ ๆ เพราะหากไปเชียงใหม่ มันต้องไปอาทิตย์หนึ่งครับ ประเดี๋ยวไม่ได้ถ่ายละคร ”

พอร์ช ศรัณย์ ประวัติ

แล้วคนที่คุยด้วยเค้าทำยังไง ตอนที่เราไปแล้วไม่มีสัญญาณติดต่อไม่ได้?

“ โอเคครับ เขาเข้าใจนะ ถามว่าเค้าอยากไปด้วยมั้ย คือหากชอบความลำบากก็ไปได้ แต่ผมไปแบบลำบากจัด ๆ เลย ส่วนมากเค้าจะไม่ไหวกัน ขนาดพาพ่อไปด้วย พ่อยังพูดว่าพอร์ชเรา ไปลานเอกชนมั้ยลูก (หัวเราะ) ผมไปอุทยานเค้าจะปิดไฟเป็นเวลา บางทีคนไม่เคยไปแล้วมันจะเครียด ห้องน้ำไม่สะดวก แต่ผมสบาย ผมอยู่ตรงไหนก็ได้ไง ”

เค้าชอบมั้ย กับการที่เราเป็นแบบนิวพอร์ช?

“ ชอบนะ รู้สึกว่าเป็นคนมีความรับผิดชอบเยอะขึ้นมากเลย อันนี้เรื่องจริงนะ เรานั่งเบื่อ ๆ สงสัยเราต้องจัดบ้านแล้วแหละ ตอนนี้เราน้ำหนักเพิ่มหรือเปล่านะ จะหันกลับมามองตัวเองมากขึ้น ”

ทำให้ผู้ที่อยู่กับเราสบายขึ้นด้วยมั้ย?

“ สบายขึ้นด้วย แต่กลายเป็นว่า อยู่คนเดียวมาก ๆ เริ่มติดอยู่คนเดียวแล้ว ไปไหนไปคนเดียวสบายใจกว่า ”

แล้วคนที่คุยด้วยล่ะ?

“ โอเคครับ เราก็แบ่งเวลาให้ถูกก็พอ แต่เวลาไปผมก็จะหายไปเลย บางทีหากติดต่อไม่ได้ ก็ต้องบอก เค้าเข้าใจครับ ส่วนเรื่องสถานะเรา ไม่ต้องพูดหรอก บางทีมันก็รู้กันอยู่แล้ว ไม่ต้องรู้ว่าเราคบกันแบบไหน (หัวเราะ) ยังไม่คบ ๆ สบายใจครับ อยู่กับตัวเองมากขึ้น อยู่กับคนที่เค้าเข้าใจเรา อยู่กับเราได้ก็พอแหละ ”

 

ประวัติ พอร์ช ศรัณย์ ศิริลักษณ์

ชื่อจริง ศรัณย์ ศิริลักษณ์ เกิดที่ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เป็นบุตรของ จักร์ ศิริลักษณ์ และ ณัฏฐ์ศิร์ ศิริลักษณ์
มีพี่สาว 1 คน ชื่อ จิรัฏฐา ศิริลักษณ์

แต่ต่อมาย้ายไป อยู่ที่อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ทางการศึกษา สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนยอแซฟวิทยา และมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนสตรีมารดาพิทักษ์ จังหวัดจันทบุรี ระดับมัธยมปลายที่ โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี แล้วก็สำเร็จระดับปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิชาการภาพยนตร์และวิดีทัศน์ มหาวิทยาลัยรังสิต เดิมศึกษาที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง แล้วก็ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

โฉบกระชาก ฟีดแบกหน้า

ฟีดแบกหน้าโรง “Jeepers Creepers: Reborn” การกลับมาของมันที่คอหนัง..สาปส่ง!

ฟีดแบกหนัง-รีวิวหนัง Jeepers Creepers: Reborn โฉบกระชาก กลับมาเกิด – รวมทั้งนี่ก็คือ อีกหนึ่งแฟรนไชส์ หนังที่ยังขยันสร้าง ออกมาเรื่อย ๆ แม้ว่าจะเว้นวรรค ช่วงจังหวะไปนานที จะกลับมาสักหนึ่งครั้ง อย่างกับพล็อตของหนัง อะไรทำนองนั้น รวมทั้งในปีนี้ มันก็กลับมาอีกรอบ กับแรงโหมโรงโปรโมต ที่หนักหน่วงไม่เบาในบ้านเรา กับ “Jeepers Creepers: Reborn” ที่ดูราวกับว่าการคัมแบ็กสเตจ ของมันในคราวนี้..จะมีแต่ว่าคำสาปแช่ง!

รวมทั้งเมื่อวันที่ (23 พ.ย.) สหมงคลฟิล์มฯ ในฐานะผู้จัดจำหน่ายหนัง Jeepers Creepers: Reborn เรื่องนี้ ได้จัดฉายรอบปฐมทัศน์ หนแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในโรงหนังพารากอน ซินีเพล็กซ์ ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ที่พบว่ามีสื่อมวลชน รวมทั้งคนชอบดูหนังให้ความสนใจ เข้ามาร่วมพิสูจน์ความสยอง รวมทั้งเสียววาบ กับการรีเทิร์นความโหด ของไอ้โฉบในคราวนี้

โฉบกระชาก การกลับมา

โดยผลสรุปของหนัง Jeepers Creepers: Reborn ที่ออกมานั้น

ได้มากับเสียงสาปส่ง ของผู้ชมจำนวนหนึ่งเลยทีเดียว ดูอย่างกับว่าคนชอบดูหนังต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “กลับมาทำไม?” โดยฉบับรีบูตเรื่องนี้ ทำออกมาได้ออกจะต่ำยิ่งกว่ามาตรฐาน รวมทั้งพลอยทำให้หนัง ภาคก่อน ๆ ที่ก็ไม่ใช่หนังที่ดิบดีอะไร แต่กลับดูดีขึ้นกว่าเยอะ เมื่อนำมาเปรียบเทียบ กับหนังภาคล่าสุดเรื่องนี้

Jeepers Creepers: Reborn เป็นเหตุการณ์ในเทศกาล Horror Hound ได้ถูกจัดขึ้นหนแรกในรัฐลุยเซียนา ดึงดูดให้คนที่ คลั่งไคล้เรื่องสยองขวัญ จากทั้งโลกมารวมตัวกัน หนึ่งในนั้นก็คือ เชส กับแฟนสาวของเขา เลนน์ ที่ฝืนใจติดตามมา ร่วมงานด้วย

แต่ว่าเธอจะต้องเผชิญหน้า กับสัมผัสของลางสังหรณ์ ที่ไม่สู้ดีรวมทั้งภาพนิมิตอันสยองขวัญ ที่มองเห็นความวินาศของเมืองทั่วเมือง โดยเฉพาะตำนานพื้นถิ่นของ The Creeper ที่ดูราวกับว่าในเทศกาลคราวนี้ จะเป็นการปลุกเรียก ให้มันตื่นขึ้นมาล่ากระหายเลือดอีกรอบ

“Jeepers Creepers: Reborn” ออกอาละวาด โหด สับ กระชากขวัญถึงโรงภาพยนต์แล้ว ออกโฉบกระชากขวัญ ชาวเมืองทั่วทั้งกรุงเทพมหานครกันไปแล้ว กับปีศาจอสูรกายนักล่า “เดอะ ครีปเปอร์” ปีศาจอมตะ ผู้ไม่มีวันตาย จากภาพยนตร์สยองขวัญ ในตำนานที่เคยฝากความสยอง ไว้ในความทรงจำของใครหลายคน

ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดีกับการกลับมาอีกรอบ กับฤดูกระชากหัว “Jeepers Creepers: Reborn” ซึ่งปัจจุบันจัดฉายแรก ของภาพยนตร์ไปตอนวันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา ในโรงหนัง พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ท่ามกลางความคึกคัก ของเหล่าวัยรุ่น ที่มาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

นอกเหนือจากนั้นบรรยากาศด้านในงาน ยังเต็มไปด้วยความสยองของ “ปีศาจเดอะครีปเปอร์” ที่ยืนคอยโฉบกระชากขวัญ ผู้เข้าชมอยู่หน้าปากทางเข้าโรงหนัง เรียกเสียงกรี๊ด รวมทั้งสร้างความตกใจให้กับเหล่าผู้กล้า กลุ่มแรกที่ได้ มาร่วมท้าพิสูจน์ ความผวาผ่านหน้าจอภาพยนตร์ในคราวนี้

ระวังหัวให้ดี ตระเตรียมวิ่งหนีให้ทัน ด้วยเหตุว่าในคราวนี้ มันกลับมาเพื่อโฉบไม่เลือก บุกเทศกาลสยอง พร้อมโฉบขวัญ ทุกคนแบบเอาจริงล่าจริง โหดจริง!! “Jeepers Creepers: Reborn โฉบกระชาก กลับมาเกิด” ฉายแล้ววันนี้ ทุกโรงหนัง

โฉบกระชาก สาปส่ง

โฉบกระชาก ปีศาจ

 

รีวิวหนัง Jeepers Creepers: Reborn โฉบกระชาก กลับมาเกิด – หนังสยองขวัญเกรด B ที่โคตรน่าเสียดาย

Jeepers Creepers: Reborn โฉบกระชากกลับมาเกิด หนังสยองขวัญเจ้าของตำนานกระชากหัวอย่าง “เดอะ ครีปเปอร์” ที่ครบทุก 23 ปี จะออกมาล่าเหยื่อเวลา 23 วัน รวมทั้งหลังจากนั้นมันจะหายตัว อย่างลึกลับรวมทั้งรอเวลากลับมา ล่าเหยื่ออีกครั้ง โดยการกลับมาคราวนี้ ได้ผู้กำกับอย่าง ทิโม วูโอเรนโซลา ผู้กำกับจากหนังชุด Iron Sky ทั้ง 3 ภาค

JeepersCreepersReborn โฉบกระชากกลับมาเกิด ตัวหนังได้นักแสดงนำอย่าง ซิดนี่ คราเวน, อิมราน อดัมส์ ,จอร์เจีย กู๊ดแมน รวมทั้ง ปีเตอร์ บรูก ร่วมถ่ายทอด ความสยองให้กับหนังเรื่องนี้

JeepersCreepers: Reborn โฉบกระชากกลับมาเกิดจะเล่าถึง ปีศาจสุดโหด ที่ในทุก ๆ 23 ปี มันจะออกล่าเหยื่อเวลา 23 วัน เพื่อทำให้ตัวมันมีพลัง ที่แข็งแกร่งขึ้น ก่อนจะกลับเข้าจำศีลรวมทั้งกลับมา ล่าเหยื่อรายใหม่อีกครั้ง เพื่อต้อนรับเทศกาล สยองขวัญ เดอะ เฮอร์เรอร์ ฮาวด์

ที่จัดขึ้น เป็นแรกในหลุยส์เซียน่า ท่ามกลางบรรดาแฟนคลับ เดนตายหนังสยองขวัญจากทั่วทุกหนทุกแห่งที่มาร่วมงาน กันอย่างคับคั่ง โดยที่ไม่ทราบเลยว่า พวกเขาจะได้เจอกับปีศาจสุดโหด “จีปเปอร์ ครีปเปอร์” ที่ตื่นขึ้นมาเพื่อล่าเหยื่อ และไม่มีคนไหนเคยหนีพ้น

บอกเลยว่า โฉบกระชากกลับมาเกิด เป็นหนังสยองขวัญ ที่มองดูน่าผิดหวังจริง ๆ ตัวหนัง ให้อารมณ์เป็นหนังทุนต่ำ พอสมควรเลย ที่ทั้งบทหนังรวมทั้งของตัวปีศาจนั้น ดูแปลก ๆ ซึ่งภาพที่คิดไว้ ตอนดูตัวอย่างมันจะต้องโหดมากแน่นอน แต่ว่าที่ไหนได้กลับกลายเป็นน่าผิดหวังจริง ๆ

การเล่าเรื่อง ของหนังก็ดูไม่ค่อย Make Sense เท่าไร ไม่มีแหล่งที่มาของตัวปีศาจเลย ได้แต่ว่าตั้งข้อซักถามาในใจว่า ทำไมมันถึงอ่อนปวกเปียก อย่างนี้ (555)

ส่วนไอ้ฉากที่ว่า โหด ๆ เนี้ยะมันก็พอมีนะ นับว่าใช้ได้เลย แต่ว่าก็ยังไม่จุใจ กับตำนานความสยองของหนังเลย อีกอย่างที่ดูแล้ว ขัดใจคือเจ้าตัวปีศาจเนี้ยแหละ ที่ดูแล้วมันไม่ค่อยสมจริงเท่าไร แถมมันยังจะตายง่ายอีก แต่ว่าตัวหนังก็ยังไม่ปิดตายเลยสะทีเดียว ด้วยเหตุว่าในตอนจบนั้น ยังทิ้งปมเอาไว้ เผื่อให้แฟนหนัง ได้ลุ้นกันต่อว่าจะมีภาคต่อหรือไม่อีกด้วย

ส่วนของนักแสดงนั้น ก็ไม่ค่อยน่าจำสักเท่าไร ที่เด่น ๆ เลยมีคนเดียวซึ่งก็คือ ซิดนี่ คราเวน ที่ดูแล้วเธอจะแสดงเยี่ยมที่สุดนะ ในเรื่อง คนไหนที่อยากดูหนังสยองขวัญ ที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก ดูเพลิน ๆ แก้เบื่อแถม มีฉากโหดนิด ๆ เรื่องนี้บางทีอาจตอบโจทย์ กับ Jeepers Creepers: Reborn โฉบกระชากกลับมาเกิด

Jeepers CreepersReborn โฉบกระชากกลับมาเกิด หนังสยองขวัญทุนต่ำ ที่เป็นการหยิบเอาตำนาน ความสยองมาฆ่าทิ้งชัด ๆ ตัวหนังเกือบดีแต่บท ดันอ่อนไปหมด รวมไปถึงตัวปีศาจที่ดูแล้ว ขัดใจมาก แต่ว่าเรื่องฉากโหด ๆ นั้นทำออกมาได้กำลังพอดี แต่ว่าก็ไม่ค่อยน่าจำซักเท่าไหร่